ไม่ว่าคุณจะนั่งเอนหลังสบายๆ หรือนั่งหลังตรง แต่ที่นั่งบนเครื่องบินก็ไม่ใช่เตียงนอนนุ่มๆ ของคุณอยู่ดี แถมที่นั่งก็อัดกันเป็นปลาซาดีนในซอสมะเขือเทศ
อีกทั้งการที่คุณต้องบินผ่านมวลอากาศที่ความเร็ว 550 ไมล์ต่อชั่วโมง แล้วอย่างนี้ยังจะคาดหวังเรื่องนอนหลับพักผ่อนอยู่อีกหรือ??
การจะหลับสักงีบบนเครื่องบินเป็นเรื่องอึดอัดลำบากใจ เพราะปัญหาจริงๆ อยู่ที่ร่างกายคนเรานั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้นอนหลับในท่าที่นั่งอยู่นั่นเอง
หากเป็นการเดินทางในระยะทางใกล้ๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงปลายทางคงไม่เป็นปัญหาอะไรนัก แต่สำหรับเที่ยวบินระยะยาวที่ต้องบินข้ามวันข้ามคืน ทำให้วัฏจักรการนอนหลับของคุณกำลังฝืนตัวอย่างแข็งขัน
Dr. Neil Kline ผู้เชี่ยวชาญด้านความผิดปกติการนอนหลับ และซีอีโอของ American Sleep Association กล่าวกับเว็บไซต์ Mental Floss ว่า
“ปกติการนอนหลับในช่วง REM นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวของดวงตาแล้ว กล้ามเนื้อของเราจะเป็นอัมพาตโดยธรรมชาติ… จึงมีแนวโน้มที่จะที่ค่อยๆ ตัดการเชื่อมต่อในช่วง REM เพื่อป้องกันการบาดเจ็บต่อตัวเรานั่นเอง”
ในช่วงการนอนหลับ REM ใช้เวลาประมาณ 70 ถึง 90 นาทีในการงีบ ดังนั้นหากใครที่ใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วคงไม่เป็นไร แต่คนส่วนใหญ่มักเสียเวลาไปกับการปรับท่านอนเสียมากกว่า
ซึ่งหากใครนั่งอยู่ตรงกลางก็อาจเซกระทบคนข้างๆ ได้ แต่ถ้านั่งติดหน้าต่างศีรษะก็อาจกระแทกกับแผ่นกระจกอีก และหากนั่งติดทางเดินก็อาจชนเข้ากับรถเข็นเครื่องดื่มได้
(โถ่..ไม่ว่าจะทางไหนก็เจ็บตัวหมดสินะ)
เมื่อใดที่นอนอยู่บนเตียงแรงโน้มถ่วงจะไม่ทำตัวต่อต้านคุณแน่ แถมยังได้พื้นที่ในการพาดแขนพาดขาอีกด้วย ในทางกลับกันเมื่ออยู่บนเครื่องบินไม่มีทางที่จะได้นอนสบายแบบนั้นหรอก
เหตุผลที่ยากเย็นเหลือแสนในการนอนหลับเมื่ออยู่ระหว่างเที่ยวบิน ต่างเกี่ยวกับระบบการทำงานของร่างกายล้วนๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงค่อนข้างลำบากด้วยสิ
เพราะฉะนั้นวิธีง่ายๆ ที่จะหลับบนเครื่องบินคือ… ทำตัวให้ง่วงก่อนขึ้นเครื่อง หรือไม่ก็จองแบบเฟิร์สคลาสที่มีเตียงให้เรานอน
มิฉะนั้นก็จะเป็นปัญหาในทุกการเดินทาง ที่นักเที่ยวต้องเผชิญอยู่ตลอดล่ะนะ!!
ที่มา www.rd.com
