10 สถานที่ชม “ใบไม้เปลี่ยนสี” ที่เจ๋งที่สุดในญี่ปุ่นปีนี้ ลิสต์กันเอาไว้ แล้วต้องไปให้ได้!!

ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น คือตลอดทั้งปี แน่นอน แม้ว่าเทศกาลดอกซากุระบานจะฮิตที่สุดในบรรดาสี่ฤดูของแดนปลาดิบนี้ แต่เทศกาลโมมิจิการิ หรือเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กันนะ

ครั้งที่แล้วเราได้พยากรณ์ช่วงเวลาในแต่ละสถานที่ที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีไปแล้ว (อ่านได้ที่นี่ : จัดเต็มพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในทุกที่ของญี่ปุ่น ต้อนรับฤดูใบไม้ร่วงที่มาถึงนี้ ) ครั้งนี้ เราจะแนะนำสถานที่สุดฮิตที่มีจุดชมวิวชั้นยอดซึ่งคุณจะได้บรรยากาศระดับห้าดาวในการเฝ้ามองใบไม้สีต่างๆได้อย่างเพลินใจเลยเชียวล่ะ

10.Oze

อุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ประมาณ 100 กม.ของกรุงโตเกียว นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นเพื่อชม kusamomiji หรือ “ทุ่งหญ้าใบไม้ร่วง”

ที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าชนิดพิเศษที่เปลี่ยนเป็นสีสันที่สวยงามระหว่างปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่กลางทะเลสีแดงล้อมรอบไปด้วยภูเขาและพืชพรรณ

9.สวน Kenrokuen เมือง Kanazawa

เป็นหนึ่งในสถานที่ใหม่ล่าสุดที่ให้บริการโดยรถไฟหัวกระสุนสายใหม่ Hokuriku เมือง Kanazawa ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากกว่าที่เคย

และที่เมืองนี้ก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีมากมายหลายแห่ง แต่ที่จุดชมวิวที่สุดยอดคือสวน Kenrokuen Garden ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสามสวนภูมิทัศน์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น

8.เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpen

อีกหนึ่งวิธีในการชมใบไม้เปลี่ยนสี คือการนั่งรถไฟข้ามเมือง เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpen นี้เชื่อมโยงเมืองโทะยะมะกับเมืองโอมาจิผ่านทางรถไฟและรถประจำทาง

ในฤดูใบไม้ร่วงคุณจะเห็นสีสันที่หลากหลายในระดับความสูงต่างๆ ซึ่งสามารถเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา ระหว่างช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน และคุณอาจจะได้เห็นการไล่ระดับสีของต้นไม้ที่สวยงามในบางจุดของเส้นทางอีกด้วย

7.Fuji Five Lakes

อีกหนึ่งจุดที่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก คือ Fuji Five Lakes ที่ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟฟูจิจากชายฝั่งของทะเลสาบ Kawaguchiko

คุณสามารถเข้าเยี่ยมชมบรรยากาศใบไม้แดงริมน้ำได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้สีสวยที่สุดในฤดูกาล

6.Nikko

Nikko เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากโตเกียวไม่กี่ชั่วโมงและสามารถเดินทางไปได้สะดวก เดิมที่ เมืองนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่พักผ่อนสุดท้ายของโชกุนคนสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังมีอุทยานแห่งชาติที่สวยงามและน่าสนใจตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนอกเหนือจากการสำรวจพื้นที่ทางวัฒนธรรมแล้ว

ลองมุ่งหน้าไปยังป่ารอบๆทะเลสาบชูซูจิและเมืองน้ำพุร้อน Yumoto Onsen ที่ซึ่งใบไม้ของพวกเขามีสีสวยงามที่สุด

5.ทะเลสาบ  Towada & Oirase Stream เมือง Tohoku

ทะเลสาบ Towada เป้นหนึ่งในทะเลสาบแสนสวยที่ตั้งอยู่ในเมือง Tohoku ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเทือกเขา Hachimantai เป็นหนึ่งในจุดที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง ที่รอบข้างจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

4.Tokyo

โตเกียวมักเป็นจุดเริ่มต้นของทุกการเดินทางในประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าพื้นที่จะไม่กว้างใหญ่หรือสวยเท่ากับดินแดนทางตอนเหนือ แต่ก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและมีบรรยากาศดีเยี่ยม

เช่นเดียวกับถนน Gingko ที่มีชื่อเสียง (Icho Namiki) เรียงรายไปด้วยต้นโกนิโกสีเหลือง ซึ่งสวนสาธารณะ Rikugienและ Koishikawa Korakuen เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดเยี่ยมในการชื่นชมความหลากหลายของสีฤดูใบไม้ร่วง

ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมจะเป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุดสำหรับการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่

3.ภูเขา Hachimantai เมืองTohoku

อีกหนึ่งสถานที่ของเมือง Tohoku ที่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งนอกจากจุดชมวิวของการชมใบไม้สีแดงที่มีชื่อเสียงแล้ว

เมืองนี้ยังมีไฮไลท์อีกอย่างคือออนเซนและเส้นทางเดินป่าที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจภัยและต้องการเรียนรู้เส้นทางธรรมชาติแบบดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น

2.อุทยานแห่งชาติ Hokkaido

เกาะใหญ่ที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่นซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอาจไม่ฮิตเท่าฤดูหนาว แต่เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถเข้าร่วมเทศกาลนี้ได้อย่างน่าประทับใจ

ที่บริเวณที่ราบสูงใกล้ภูเขาไฟ ที่ราบทะเลสาบและน้ำพุร้อนเป็นจุดชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีอยู่หลากหลายจุดด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ่วาคุณไปในช่วงเดือนไหน และจังหวัดไหนในฮอคไกโด

1.ศาลเจ้าใน Kyoto

สถานที่ยอดฮิตอันดับหนึ่งในการชมใบไม้เปลี่ยนสีคงหนีไม่พ้นเมืองเก่าอย่างเกียวโต สถานที่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ที่มีอีกฉายาว่า “เมืองแห่งหมื่นวัด” ที่ซึ่งไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าหรือสวนไหนๆ คุณก็จะได้เห็นใบไม้ร่วงในจุดที่สวยที่สุด โดยใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ลากยาวไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม

ที่มา: www.insidejapantours.com