การสัมภาษณ์เป็นปราการด่านที่สองของการสมัครงานที่หลายคนหวั่นใจ เพราะไม่รู้ว่าต้องวางตัวอย่างไร ต้องใช้คำพูดแบบไหนถึงจะโดนใจนายจ้าง ซึ่งสำหรับบางคนเมื่อได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลว่าให้สัมภาษณ์งานก็รีบกุลีกุจอเตรียมตัวทันที ดูแลทั้งเสื้อผ้า การแต่งหน้าและทำผมเพื่อไม่ต้องการให้เกิดข้อผิดพลาดแม้แต่จุดเดียว
แต่กระนั้นเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์จริง เจอความตึงเครียดและสายตาคาดคั้นจากคณะกรรมการ เป็นใครก็เริ่มรู้สึกหวั่นเกรง เหงื่อแตกพลั่ก ครั้นยิ่งเจอคำถามหลอกล่อจากกรรมการที่ต้องการให้คุณเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริง หรือต้องการให้คุณเผลอหลุดคำพูดด้านลบออกมา ดังนั้นวันนี้เราจึงมีคู่มือสำหรับคนหางานมาฝาก กับ 17 ข้อห้ามที่ไม่ควรพูดในระหว่างสัมภาษณ์งาน
1. ดิฉันไม่ชอบงานที่ทำอยู่เลยจริงๆ (มันจะทำให้กรรมการคลางแคลงใจว่าคุณจะเกลียดงานนี้ด้วยหรือไม่หากได้รับการจ้างงาน)
2. เจ้านายคนนี้เป็นคนที่แย่ที่สุดตั้งแต่ที่ฉันเคยทำงานมาเลย
3. บริษัทปัจจุบันที่ฉันทำอยู่มันแย่มาก
4. งานนี้ได้รับเงินเดือนเท่าไหร่? (ซึ่งควรให้นายจ้างเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องนี้ก่อน)
5. วันหยุดพักผ่อนของผมคือวันไหน (อย่าเพิ่งถามเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จนกว่าจะได้รับการจ้างงาน)
6. จะเป็นอะไรไหมคะถ้าดิฉันขออนุญาตรับสายนี้ (ควรปิดโทรศัพท์มือถือให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์)
7. ดิฉันต้องการตำแหน่งนี้จริงๆ นะคะ
8. ดิฉันไม่มีประสบการณ์ตามที่คุณต้องการสักครั้ง แต่ดิฉันเป็นคนที่เรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็ว (กรณีนี้ให้ผู้สัมภาษณ์เป็นฝ่ายพิจารณาเองหากคุณมีคุณสมบัติ หรือมุ่งเน้นในส่วนทักษะที่ตัวคุณมี)
9. ดิฉันไม่ทราบค่ะ… (อย่าเพิ่งวิตกหากคุณนึกไม่ออกว่าจะตอบคำถามข้อนั้นอย่างไร ควรถ่วงเวลาซักครู่เพื่อหาคำตอบโดยการเปลี่ยนคำถามใหม่หรือขอคำอธิบายใหม่ให้ชัดเจน)
10. ข้อนี้มีระบุในเรซูเม่ของดิฉันค่ะ (ผู้สัมภาษณ์รู้ดีว่าคำตอบของคำถามที่เขาอยากรู้มีระบุในเรซูเม่ แต่พวกเขาต้องการได้ยินจากปากของคุณมากกว่า)
11. คือว่าดิฉันมีนัดค่ะ การสัมภาษณ์นี้จะเสร็จในอีกไม่ช้าใช่ไหมคะ? (ควรเผื่อเวลาสำหรับการสัมภาษณ์งานไว้ด้วย เพราะบางครั้งมันอาจกินเวลานานกว่าที่คุณคาดการณ์ไว้)
12. เผลอพูดคำหยาบหรือคำสบถ ควรมีความเป็นมืออาชีพและรักษาความสุภาพเข้าไว้ ที่สำคัญมีสติอยู่กับตัวเสมอจะได้ไม่เผลออุทานคำติดปาก (ที่ค่อนข้างหยาบ) ออกมา
13. นโยบายการออกเดตกับเพื่อนร่วมงานเป็นยังไงคะ? (ควรโฟกัสที่เรื่องงาน อย่าเพิ่งสนใจชีวิตรักในองค์กร)
14. ตารางการทำงานมันไม่ค่อยลงตัวสำหรับฉัน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไหมคะ? (อย่าเพิ่งเอ่ยขออะไรจนกว่าจะได้รับ Job offer)
15. ผู้สัมภาษณ์: คุณมีอะไรจะถามไหม?
คุณ: ดิฉันไม่มีคำถามค่ะ
ในความเป็นจริงคุณควรมีคำถามเตรียมไว้สำหรับถามกลับผู้สัมภาษณ์เสมอ
16. มีสวัสดิการอะไรบ้าง? (รอจนกว่าจะได้รับ Job offer จึงควรพูดถึงสวัสดิการของพนักงาน)
17. การสัมภาษณ์ทำให้ดิฉันตื่นเต้นมาก (ผู้สัมภาษณ์ต้องการจ้างคนที่มั่นใจในความสามารถ ของตนเอง)
ข้อห้ามเหล่านี้อาจเป็นข้อยกเว้นในบางบริษัท หรือบางลักษณะงานที่มีความเฉพาะ ดังนั้นควรศึกษาภาพรวมขององค์กรให้ละเอียดก่อนไปสัมภาษณ์งาน อีกหนึ่งข้อที่ต้องระวังคือการพูดถึงอุปสรรคหรือข้อจำกัดของตัวเอง เช่น การเดินทางมาทำงาน มีครอบครัวที่ต้องดูแล หรือปัญหาส่วนตัวอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อการทำงาน ซึ่งจะทำให้นายจ้างต้องคิดทบทวนว่าควรจ้างคุณหรือไม่
ที่มา: thebalance
