4 บทสนทนาในภาษาอังกฤษ ทำให้คนไม่ชอบเข้าสังคม ไปงานปาร์ตี้ได้อย่างราบรื่น

คนเก็บตัว หรือคนโลกส่วนตัวสูง ดูเหมือนจะเป็นปรปักษ์กับงานเลี้ยงสังสรรค์ เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยผู้คน และเสียงดังอึกทึก แต่ปฏิเสธไม่เลยว่าปาร์ตี้เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าสังคมที่เลี่ยงได้ค่อนข้างยาก

สำหรับใครที่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงกับบริษัท แต่เป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง ทางเราก็มีบทสนทนาภาษาอังกฤษมาฝากมาแนะนำกัน

 

 

เทคนิคสนทนาภาษาอังกฤษในปาร์ตี้ให้ราบรื่น

การสนทนาในงานเลี้ยงค่อนข้างแตกต่างจากการสนทนาแบบเป็นทางการ (เช่นการประชุมทางธุรกิจ หรือเชิงวิชาการ) และนี่คือสิ่งสำคัญ 3 ประการเพื่อการสนทนาที่ราบรื่นในงานปาร์ตี้

 

1. เปิดบทสนทนา เพื่อทำลายความเงียบ

เมื่อไปถึงงานปาร์ตี้ และไม่รู้จักใครเลย เป็นเรื่องปกติที่คุณจะกลัว แต่อย่ากังวลใจไป ให้คิดว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้ผูกมิตรกับคนใหม่ๆ ได้ประสบการณ์ที่ต่างจากเดิม และเป็นช่วงเวลาที่จะได้ฝึกภาษาอังกฤษไปด้วย

 

แนะนำตัวเอง

จงมั่นใจ และดูเป็นกันเองเข้าไว้ โดยพุ่งเข้าหาบุคคลที่อยู่ใกล้คุณ หรือคนที่คิดว่าน่าคุยด้วย และพูดประโยคบางอย่าง เช่น

-Hi, I’m Sarah, nice to meet you.

-Hello, I don’t think we’ve met. My name is Sarah.

 

แนะนำเพื่อนร่วมงานของคุณ

หากไปงานพร้อมเพื่อน สามารถแนะนำเพื่อนร่วมงานของคุณโดยใช้ประโยค เช่น

-Hi, this is my classmate/colleague/friend/boyfriend Tom.

 

คำถามตามบริบท

หลังจากแนะนำตัวเองแล้ว คุณสามารถเริ่มด้วยคำถามเบสิคเพื่อปูพื้นฐานให้บทสนทนาลื่นไหล วิธีที่ง่ายที่สุดคือเริ่มด้วยสิ่งที่ตัวเองถนัด หรือพอมีความรู้ ตัวอย่างประโยค เช่น

-How do you know [เจ้าภาพ]?

-Do you live/study/work here in [เมือง]?

-How long have you been here?

 

อวยพร ชมเชย

ผู้คนชอบฟังคำยกย่องชมเชย โดยเฉพาะสิ่งที่มาจากใจจริง คุณอาจเริ่มด้วยความคิดเห็นเชิงบวก แล้วตามด้วยคำถาม ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำลายความเงียบ ตัวอย่างประโยค

-The food is delicious. Did you make it?

-That’s a lovely bracelet. Can I ask where you got it?

 

2. พูดคุยเรื่องทั่วไป

เมื่อพอรู้จักบุคคลที่คุณเข้าไปสนทนาแล้ว ก็สามารถพูดคุยในหัวข้อที่ละเอียดมากขึ้น เริ่มด้วยเรื่องทั่วไปครอบจักรวาล ซึ่งเป็นสิ่งที่บุคคลนั้นอาจมีความเกี่ยวข้อง เช่น

 

ดินฟ้าอากาศ

-How do you find the weather here?

-Do you prefer hot or cold weather?

-It’s a lovely day today. Have you been doing anything outside?

-It’s freezing today, isn’t it?

-The snow is amazing! Do you like snow?

 

ข่าวสาร

จะเป็นการดีหากหลีกเลี่ยงข่าวการเมืองเพราะเสี่ยงที่ความเห็นอาจไม่ตรงกัน ทางที่ดีควรเลือกหัวข้อที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี สุขภาพ หรือสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างประโยค

-Did you hear about the latest test of self-driving cars? When do you think we will see one in our city?

-I heard on the news today about the plastic-free pledge from some supermarkets. Do you think it will make a difference?

 

ภาพยนตร์หรือรายการทีวี

ตัวอย่างประโยค

-Have you seen “Stranger Things?”

-I watched the latest episode of “Black Mirror” last night. Did you see it?

-I heard Ryan Gosling was terrific in “La La Land.” What do you think?

 

เกมยอดนิยม

ตัวอย่างประโยค

-Have you ever played Dungeons & Dragons?

-I love Monopoly. We used to play it on the weekend when I was a kid. Do you know the game?

 

3. เข้าเรื่องที่ดูส่วนตัวมากขึ้น

เมื่อพูดคุยกับคนๆ นั้นมาพักหนึ่งแล้ว ก็ถึงเวลาอันสมควรในการถามคำถามส่วนตัว และแบ่งปันเรื่องราวของคุณร่วมด้วย

 

พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวในวันนั้น

-How do you find your work/studies?

-What is a typical day at your work/school?

-How are things going with your work/studies?

-I am looking for a job in marketing and I heard you work in marketing. Do you have any advice?

 

งานอดิเรก หรือความสนใจ

ตัวอย่างประโยค

-What do you like to do on the weekend?

-What do you do for fun?

-Do you have any plans for the holiday?

 

4. การจบบทสนทนา

งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา และนี่คือข้อพึงปฏิบัติเมื่อช่วงสุดท้ายมาถึง

แลกเปลี่ยนความประทับใจ

ตัวอย่างประโยค:

-It’s been nice talking to you.

-Thanks for telling me about your studies. It was fascinating.

-You have some real travel stories there. I cannot wait to hear more.

 

เอ่ยลา

ตัวอย่างประโยค

-Bye for now. See you next time/next week/soon.

-Have a safe trip home. I hope to see you again.

-Goodnight. Take care. We will talk more next time.

 

การสนทนาในปาร์ตี้อาจเป็นเรื่องที่ดูท้าทายสักหน่อยสำหรับคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่เชื่อว่าหลังจบงานแล้ว คุณคงได้ทักษะที่ดีกว่าเดิมแน่

 

ที่มา www.fluentu.com

ร่วมแสดงความคิดเห็นกันจ้า...

ทุนการศึกษาอื่นๆที่น่าสนใจ