ตำนานสุดสะพรึง เรื่องราวของ ‘สาวปากฉีก’ อีกหนึ่งวิญญาณอาฆาตจากแดนซามูไร

เพื่อนๆเคยคิดไหมครับว่าตำนานที่เล่าขานต่อๆกันมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง!? บางตำนานก็อาจจะมีเค้าโครงความจริงอยู่บ้าง บางตำนานก็อาจจะไม่มีเค้าโครงความจริง แต่ก็ไม่แน่ครับทุกอย่างมันสามารถเป็นไปได้

วันนี้ Scholarship.in.th ขอเสนอตำนานสุดสะพรึง เรื่องราวของ ‘สาวปากฉีก’ อีกหนึ่งวิญญาณอาฆาตจากแดนซามูไร

“สาวปากฉีก” หรือที่คนญี่ปุ่นเธอเรียกว่า “คุชิซาเกะอนนะ (Kuchisake-onna)” เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกสามีผู้หึงหวงทำร้ายจนเสียอวัยวะ และต่อมากลายเป็นผีร้าย

ตำนานได้เล่าขานเอาไว้ว่า หญิงสาวคนนี้เป็นภริยาของซามูไร แต่เธอไม่ซื่อตรงต่อสามี และเมื่อสามีได้รู้ความจริงจึงโกรธมาก จึงได้เอาดาบสับปากนางจนถึงใบหู แล้วพูดกับนางว่า “ดูเถิดคนเขาจะเห็นว่ามึงงดงามอยู่อีกหรือไม่” หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวผู้นั้นก็ตาย แต่เพราะใจมีความแค้นพยาบาทต่อสามี จึงไม่ไปผุดไปเกิด กลับกลายมาเป็นผีร้าย มาแก้แค้นสามี และหลอกหลอนผู้คน

และตำนานสาวปากฉีกนี้ได้มีการร่ำลือกันอีกครั้งในช่วงประมาณ พ.ศ.2500 ซึ่งว่ากันว่า เด็กๆที่เดินลำพังยามวิกาลจะพบเจอกับหญิงสาวคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัย แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะหยุดเดินแล้วถามเด็กว่า “ฉันสวยไหม” ถ้าเด็กตอบว่าไม่ก็จะล้วงกรรไกรออกมาตัดปากเด็กจนตาย แต่ถ้าเด็กตอบว่าสวย ก็จะถอดหน้ากากอนามัยแล้วยิ้มให้เด้กคนนั้นดู โดยจะเห็นปากที่ถูกตัดจนถึงใบหู มีเลือดไหลท่วม  แล้วจะถามต่ออีกว่า “ตอนนี้ฉันยังสวยอีกไหม” ถ้าตอบว่าไม่ก็จะตัดร่างกายเด็กออกเป็นสองท่อน แต่ถ้าตอบว่าไม่ก็จะเอากรรไกรตัดปากเด็กจนถึงใบหู (สรุปคือตอบยังไงก็โดน -_-)

แต่ในตำนานยังเล่าถึงวิธีหนีจากสาวปากฉีกเอาไว้อีกว่า ถ้าหากเจอสาวปากฉีก ก็ให้ตอบว่า สวยสองครั้งติด แล้วจะทำให้สาวปากฉีกงงชั่วครู่ จากนั้นก็ได้เวลาวิ่งหนี บางตำนานก็เล่าว่า ขณะที่ถูกสาวปากฉีกไล่ตามอยู่ให้โยนส้มหรือโปรยขนมหวานไปก็เพราะว่าจะทำให้หญิงปากฉีกหันไปเก็บของเหล่านั้นแทนการตามเรา

เป็นอีกหนึ่งตำนานที่น่ากลัวเป็นอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นเลยหล่ะครับ >_<

วันนี้ขอลากันไปเพียงเท่านี้ก่อน แล้วกับมาพบกับวาไรตี้ดีๆอัพเดททุกวันกับ Scholarship.in.th กันนะครับ

ที่มา: teenee