4 สิ่งที่คณะกรรมการมองหาจาก “ใบสมัครทุนการศึกษา” ของนักเรียน

การสมัครขอทุนการศึกษาถือเป็นการแข่งขันทางวิชาการที่มีความเข้มข้น แน่นอนว่ากว่าจะยื่นมือไปรับทุนอย่างภาคภูมิใจต้องผ่านด่านการทดสอบเพื่อตรวจดูคุณสมบัติที่เหมาะสม แถมยังต้องฟาดฟันกับผู้เข้าแข่งขันท่านอื่นๆ ที่โปรไฟล์ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ซึ่งวันนี้เรามีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการขอทุนมาฝาก

1. มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด

หากคณะกรรมการกวาดตามองใบสมัครแล้วเห็นว่า ‘คุณสมบัติไม่ตรงตามข้อกำหนด’ ใบสมัครของคุณก็จะไม่ได้ไปต่อ ด้วยเหตุนี้จึงต้องค้นหาทุนที่เข้ากับตัวเองที่สุด และตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง รวมทั้งสำรวจผลงานทางวิชาการที่ผ่านมาของเราด้วยว่าจะสามารถยื่นขอทุนนี้ได้หรือไม่ ไปจนถึงกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เคยทำ หรือกิจกรรมจิตอาสา เป็นต้น

2. การจัดรูปแบบ

คณะกรรมการที่พิจารณาทุนการศึกษามักมองหาใบสมัครที่อ่านง่าย ไม่มีคำผิด ไม่มีส่วนประกอบใดที่ขาดหายไป ซึ่งปัจจุบันหลายทุนการศึกษาสามารถกรอกแบบฟอร์มใบสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ ดังนั้นผู้สมัครจึงต้องตรวจสอบเอกสาร และข้อมูลอย่างรอบคอบ

3. สร้างความรู้สึกประทับใจ

อีกสิ่งหนึ่งที่จะสร้างความประทับใจให้คณะกรรมการพิจารณาทุนก็คือ พวกเขาอยากได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ประวัติการศึกษาของคุณมีความพิเศษ หรือความสามารถที่โดดเด่นที่ซึ่งจะแยกคุณออกจากผู้สมัครรายอื่นๆ ได้ เช่น ประสบการณ์ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือเคยประดิษฐ์สร้างสรรค์งานบางชิ้น เป็นต้น

4. ความซื่อสัตย์ และความโปร่งใส

ท้ายที่สุดแล้วเหล่าคณะกรรมการพิจารณาทุนเพียงต้องการอ่านเรื่องที่เป็นความจริง ฉะนั้น อย่าประดิดประดอยหรือนำเสนอตัวเองในแบบเกินจริง เพราะผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาไม่เพียงแต่ได้รับเงินช่วยเหลือค่าเล่าเรียนเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นตัวแทนขององค์กร หรือมหาวิทยาลัย และปฏิบัติภารกิจตามที่สถาบันเห็นสมควร ฉะนั้น ควรเผยให้พวกเขาได้เห็นถึงความจริงใจจะดีกว่า

นี่เป็นเพียงเทคนิคการกรอกใบสมัครเบื้องต้นเท่านั้น แน่นอนว่าหากอยากได้ทุนการศึกษาจริงๆ ก็ต้องผ่านการเตรียมตัวเป็นอย่างดี และสร้างจุดเด่นให้ดูน่าสนใจในสายตากรรมการ

ที่มา: fastweb