7 ความเชื่อที่ได้ยินมานาน แต่กลับกลายเป็นข้อเท็จจริงที่ผิดเพี้ยนอย่างไม่น่าเชื่อ

มีความเชื่อบางอย่างที่อยู่คู่กับเรามานานตั้งแต่เด็กๆ และก็ยังปักใจเชื่ออยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งความเชื่ออาจกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดได้หากมีข้อเท็จจริงมาลบล้าง หรือมีนักวิทยาศาสตร์ค้นพบข้อมูลใหม่ๆ อย่างเช่นข้อเท็จจริง 7 ประการเหล่านี้

1. ยาหลอกใช้ได้ผลกับมนุษย์เท่านั้น

ยาหลอกเป็นการรักษาโรคหรืออาการทางการแพทย์ที่ไม่แท้ หรือไม่มีผลทางการแพทย์ ซึ่งวิธีนี้ใช้ได้ผลกับในสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน

2. นมมีผลต่อความแข็งแรงของกระดูก

โฆษณาอ้างว่าผลิตภัณฑ์จากนมเป็นแหล่งแคลเซียมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกระดูกของเรา แต่แคลเซียมที่มีอยู่ในนมไม่ได้ช่วยป้องกันกระดูกแตกร้าวซะทีเดียว

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดพบว่า ผู้คนที่อยู่ในประเทศที่ไม่ค่อยได้บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมมีอาการกระดูกร้าวน้อยกว่าผู้ที่ดื่มนมเป็นประจำ ซึ่งจริงๆ แล้วคุณสามารถรับเอาแคลเซียมจากปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ถั่วอัลมอนด์ และมะเดื่อแทนก็ได้

3. ช็อกโกแลตเป็นสาเหตุของสิว

เรื่องนี้หลายคนพอจะเคยได้ยินมาบ้าง ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย โดยนักวิจัยได้ทำการศึกษาและยืนยันแล้วว่าช็อกโกแลตไม่เป็นอันตรายต่อผิวของเรา และไม่ส่งผลกระทบใดๆ

4. หากคิดจะวิ่ง ต้องวิ่งทุกวัน

นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิจัยและค้นพบว่าการวิ่งเป็นประจำทุกวันสามารถส่งผลอันตรายต่อร่างกายของเราได้ ซึ่งการวิ่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคอัลไซเมอร์ และริ้วรอยก่อนวัยอันควร โดยรวมแล้วจะดีที่สุดหากวิ่ง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยมีระยะทางรวม 19 ไมล์

5. ดาวอังคารสีแดง

ในปี 1970 ยานอวกาศของนาซ่า Viking 1 เป็นยานลำแรกที่ได้สัมผัสกับดาวเคราะห์ และทำการบันทึกภาพถ่าย โดยภาพแรกพบว่าท้องฟ้าเป็นสีฟ้าไม่ใช่สีชมพู และปัจจุบันนาซ่าก็ได้ออกมาเผยแล้วว่าดาวอังคารประกอบด้วยสีเทา และสีน้ำเงิน

6. ยอดเขาเอเวอเรสต์สูงที่สุดในโลก

เมื่อวัดจากความสูงโดยรวม ยอดเขาเอเวอเรสต์ไม่ใช่ยอดเขาที่สูงสุด แต่กลายภูเขาไฟเมานาเคอา ในรัฐฮาวาย

7. ซาฮาราเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เมื่อพูดถึงทะเลทรายเราจะจิตนาการถึงพื้นที่ที่ไร้ชีวิตชีวา มีความร้อนสูงและเต็มไปด้วยทรายมหาศาล แต่ทะเลทรายเป็นภูมิประเทศที่ได้รับปริมาณจากหยาดน้ำฟ้าเพียงเล็กน้อย (ฝน หิมะ หรือลูกเห็บ) หากเป็นเช่นนี้แอนตาร์กติกาจะกลายเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในบรรดาข้อเท็จจริงเหล่านี้มีข้อไหนบ้างที่คุณเชื่อมาโดยตลอด แล้วเห็นด้วยหรือไม่กับข้อมูลเหล่านี้?

ที่มา: brightside