รัฐบาลสหราชอาณาจักรอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติพำนักอยู่ได้นานถึง 1 ปี หลังจากที่วีซ่านักเรียนหมดอายุ เพื่อเพิ่มโอกาสในการหางานทำสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
นโยบายนี้เป็นแนวคิดริเริ่มของรัฐบาลเพื่อเพิ่มอัตราการรับสมัครงานให้ได้มากกว่าร้อยละ 30 และเพิ่มรายได้ให้กับภาคธุรกิจจาก 20 พันล้านปอนด์ในปัจจุบัน เป็น 35 พันล้านปอนด์ต่อปี ตามที่รัฐบาลประกาศเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
“กลยุทธ์ดังกล่าวรวมถึงมาตรการอีกหลายประการเพื่อช่วยให้ภาคการศึกษาและการส่งออกการศึกษาของสหราชอาณาจักรมีศักยภาพสูงสุด รวมถึงขยายระยะเวลาอยู่ต่อสำหรับวีซ่านักศึกษาต่างชาติหลังเรียนจบ และพิจารณาขั้นตอนการขอวีซ่าว่าสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือสนับสนุนการจ้างงานของนักเรียนได้อย่างไร”
นอกจากนี้ DFE และกรมการค้าระหว่างประเทศยังวางแผนที่จะเปิดเผยกลยุทธ์การศึกษาระดับนานาชาติ โดยให้มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 30% ในสหราชอาณาจักภายในอีก 10 ปีข้างหน้า
กลยุทธ์นี้จะช่วยเพิ่มจำนวนนักศึกษาจากนอกสหราชอาณาจักรที่เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในอังกฤษจาก 460,000 คน รวมถึงสหภาพยุโรปเกือบ 140,000 คน เป็น 600,000 คนในปี 2030 เป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้สืบเนื่องมาจากนักศึกษาในสหภาพยุโรปจะต้องเผชิญกับค่าเล่าเรียนที่สูงขึ้น และไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อนักเรียนหลังจากสหราชอาณาจักรการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป
Damian Hinds เลขานุการด้านการศึกษากล่าวว่า “เมื่อเราเตรียมออกจากสหภาพยุโรปสิ่งที่สำคัญคือการเข้าถึงพันธมิตรจากทั่วโลกของเรา และเพิ่มศักยภาพของสินทรัพย์ที่ดีที่สุด ซึ่งรวมถึงข้อเสนอด้านการศึกษาที่ดึงดูดใจสำหรับนักศึกษาต่างชาติ”
Janet Beer รองอธิการบดีของ Liverpool University และประธานแห่งมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร เผยว่าองค์กรของเธอกำลังหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์กับรัฐบาลในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา
“นักศึกษาต่างชาติมีส่วนร่วมอย่างมากในสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่ในด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเพิ่มคุณค่าให้กับสภาพแวดล้อมการศึกษานานาชาติในมหาวิทยาลัยของเรา การปรากฏตัวของพวกเขาในสหราชอาณาจักรสร้างมูลค่าได้ประมาณ 26,000 ล้านปอนด์”
Janet Beer กล่าวเพิ่มเติมว่าเรายินดีที่จะปรับเปลี่ยนขั้นตอนต่างๆ ในการขอวีซ่า รวมถึงขยายโอกาสสำหรับบัณฑิตที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาให้สามารถทำงานในสหราชอาณาจักรเมื่อเรียนจบ โดยขยายเวลาอยู่ได้อีก 6 เดือนสำหรับนักศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโท และ 1 ปีสำหรับนักศึกษาปริญญาเอก
ที่มา: scmp , studyinternational
